วันอังคารที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2558

ปูพรมศูนย์เรียนรู้เพิ่มผลผลิตเกษตรกร

 

“ภาคการเกษตร” เป็นแหล่งรายได้ของประเทศและแหล่งอาหารเลี้ยงปากท้องคนไทยมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน แต่ในภาวะปัจจุบันเกษตรกรต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ อาทิ ต้นทุนการผลิตสูง

วันพฤหัสบดี 11 กันยายน 2557 เวลา 00:00 น.

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

“ภาคการเกษตร” เป็นแหล่งรายได้ของประเทศและแหล่งอาหารเลี้ยงปากท้องคนไทยมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน แต่ในภาวะปัจจุบันเกษตรกรต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ อาทิ ต้นทุนการผลิตสูง พื้นที่เพาะปลูกขาดความอุดมสมบูรณ์ รวมทั้งการแพร่ระบาดของโรคและแมลงศัตรูพืช ทำให้ผลผลิตที่ได้รับมีปริมาณน้อย คุณภาพต่ำ เกษตรกรส่วนใหญ่ จึงประสบกับภาวะขาดทุน เกิดปัญหาหนี้สินรุมเร้าจนไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ 

นายโอฬาร พิทักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเร่งหาหนทางให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกร โดยเฉพาะเรื่องการลดต้นทุนการผลิต การเพิ่มปริมาณและพัฒนาคุณภาพของผล ผลิตการเกษตร จึงให้มีการดำเนินการจัดตั้ง “ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มผลผลิตการเกษตร” หรือ “แปลงสาธิต” เพื่อเป็นจุดดูงานด้านการลดต้นทุน เพิ่มปริมาณและคุณภาพผลผลิตให้กับเกษตรกรทั่วประเทศ

“จุดประสงค์หลักของการดำเนินการโครงการนี้ คือ เพื่อให้มีศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร สำหรับเป็นแหล่งเรียนรู้เทคโนโลยีที่เหมาะสมในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการผลิต และเทคโนโลยีการเกษตรให้แก่เกษตรกรทั่วประเทศ ให้สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้เพื่อลดต้นทุนการผลิต เพิ่มปริมาณและคุณภาพของผลผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ”

นายโอฬาร กล่าวต่อว่า กรมส่งเสริมการเกษตร วางเป้าหมายไว้ว่า จะต้องเกิดศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรทุกอำเภอ อำเภอละ 1 ศูนย์ทั่วประเทศ รวม 882 แห่ง เป็นต้นแบบและมีความพร้อมในการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตทางการเกษตรที่มีประสิทธิภาพ โดยมีเกษตรกรจำนวน 176,400 คน หรือ 200 คนต่อศูนย์ เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อม และมีระบบการผลิตที่สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน 

สำหรับองค์ประกอบของศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร แต่ละแห่งประกอบด้วย 1.แปลงเรียนรู้ เป็นแปลงของเกษตรกรต้นแบบที่ดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลของแต่ละพื้นที่ 2.เกษตรกรเจ้าของแปลงเรียนรู้ จะต้องมีความรู้ ทักษะ และความพร้อมในการถ่ายทอดความรู้ 3.ฐานการเรียนรู้ต่าง ๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร คือ การลดต้นทุนการผลิต การเพิ่มผลผลิต และพัฒนาคุณภาพผลผลิต และ 4.หลักสูตรการเรียนรู้ โดยสำนักงานเกษตรอำเภอ และเกษตรกรต้นแบบ ร่วมกันกำหนดหลักสูตรการเรียนรู้ โดยใช้กลไก “สำนักงานเกษตรจังหวัด” และ “สำนักงานเกษตรอำเภอ” ทั่วประเทศ ดำเนินการคัดเลือกแปลงเรียนรู้และเกษตรกรต้นแบบนำร่อง อำเภอละ 1 จุด เพื่อนำมาดำเนินการเป็นศูนย์เรียนรู้ในพื้นที่ รวมทั้งหมด 882 จุด 

โดยสำนักงานเกษตรอำเภอ จะเข้าไปปรับปรุงและพัฒนาศูนย์เรียนรู้ของเกษตรกรต้นแบบ เพื่อให้มีความพร้อมในการถ่ายทอดความรู้ เรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรที่ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งจัดการศึกษาดูงานให้กับเกษตรกรต้นแบบซึ่งเป็นเจ้าของศูนย์  จากนั้นสำนักงานเกษตรอำเภอจะร่วมกับเกษตรกรต้นแบบ กำหนดและจัดทำแผนหรือหลักสูตรการเรียนรู้ของเกษตรกรที่จะเข้ามาเรียนรู้ โดยมีเป้าหมายให้เกษตรกรเข้ามาเรียนรู้อย่างน้อยแห่งละ 200 คน ภายในเดือนกันยายน 2557 

เชื่อว่าการดำเนินการครั้งนี้จะช่วยให้เกษตรกรที่เข้ามาเรียนรู้ในศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินการผลิตสินค้าเกษตรของตนเองได้ ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง ผลผลิตมีปริมาณและคุณภาพมากยิ่งขึ้น  ที่สำคัญจะช่วยให้เกษตรกรเกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน.

ที่มา : http://www.dailynews.co.th/Content/agriculture/265802/%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A8%E0%B8%B9%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%A3

<< ย้อนกลับ

ไม่มีความคิดเห็น: